เชื้อราก่อโรคผลเน่าในทุเรียนมี 6 ชนิด ได้แก่
- ไฟทอปธอร่า (Phytophthora palmivora) : แผลสีน้ำตาลเข้มปนน้ำตาลแดง ร่องหนามมีสีเข้ม โคนหนามมีลักษณะวาว และแผลคล้ายฉ่ำน้ำ บางครั้งเห็นเส้นใยสีขาวรวมตัวกันเป็นกระจุกในภาวะความชื้นสูง และอาจเน่าลุกลามเข้าตามไส้เมื่อผลเริ่มสุก ทำให้เนื้อทุเรียนเสีย มีรสเปรี้ยว บางครั้งเข้าทำลายลึกถึงเมล็ด

- แอนแทรคโนส (Colletotrichum gloeosporioides) : แผลจะเป็นเริ่มจากมีจุดสีเหลืองที่หนาม ต่อมาแผลเป็นสีเข้ม อาจพบเส้นใยในภาวะความชื้นสูง

- โฟมอปซิส (Phomopsis ) : แผลเป็นสีน้ำตาล ร่องหนามมีสีเข้ม โคนหนามมีลักษณะจุดดำกระจาย

- ลาสิโอดิพโพลเดีย (Lasiodiplodia theobromae) : แผลเป็นสีน้ำตาลเข้ม หากมีความชื้นสูงจะพบเส้นใยเชื้อราสีเขียวปนเทาเจริญคลุมแผล มักพบที่ก้นผล ผลจะแตก อาการจะลุกลามอย่างรวดเร็ว และมีกลิ่นสาบ

- ฟิวซาเรียม (Fusarium solani) : แผลสีน้ำตาลถึงดำ มีเมือกสีส้มหรือสปอร์ขาวอมส้มในภาวะความชื้นสูง

- ราแป้ง (Oidium) : เป็นฝุ่นผงสีขาวขึ้นปกคลุมทั้งผลหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ทำลายตั้งแต่ติดผลอ่อนจนกระทั่งผลแก่สีผิวเปลือกผิดปกติ ไม่เป็นมัน หนามเกิดรอยแตกเล็กๆ

เชื้อราดังกล่าวทำให้ผลร่วงได้ หรือทำให้ผลผลิตเสียหาย มีตำหนิ ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด หากเป็นมากเนื้อด้านในจะเน่าเละ มีกลิ่นเหม็น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ พ่นป้องกันทุกระยะของผล อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง
การป้องกันกำจัด
- ระยะ ลูกหมาก – กระป๋องนม ป้องกันด้วย บิซโทร 400 กรัม สลับ ซับลา 300 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร

- ระยะขยายขนาดผล (2 เดือน) ป้องกันด้วย ไดเมโทมอร์ฟ+แมนโคเซบ 400 กรัม สลับ มิลล่า 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

- ระยะขยายขนาดผล (3 เดือน) ป้องกันด้วย รัสโซล 150 ซีซี สลับ ซับลา 300 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร

- ระยะก่อนและหลังเก็บเกี่ยว (4 เดือน) ป้องกันด้วย แซสซี่ 50 ซีซี สลับ อินดีฟ 100 ซีซี สลับ คลอโรทาโลนิล+อะซอกซีสโตรบิน เอสซี 200 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

หมายเหตุ
– เพื่อป้องกันการดื้อยา ไม่ควรใช้สารกลุ่มเดิมติดต่อกันเกิน 2-3 ครั้ง
– เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสาร ควรผสมคัพเวอร์กรีน 100 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ก่อนผสมสารทุกครั้ง
สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานยูนิไลฟ์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ยูนิไลฟ์ สำนักงานใหญ่ โทรศัพท์ 02-399-5555 หรือ ไอดีไลน์ @unilife