เพิ่มสินค้าสำเร็จ!
ไม่สามารถเพิ่มสินค้าได้!
สาระน่ารู้ข่าวสาร

โรคราสีชมพูร้ายแรงกว่าที่คิด

     โรคราสีชมพู (Cortricium salmonicolor) มีความสำคัญและสร้างความเสียหายได้มากในช่วงที่มีความชื้นสูง โดยเฉพาะฤดูฝน เมื่อโรคเข้าทำลายในระยะแรกๆ อาจจะเห็นเส้นใยสีขาว ต่อมาจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีชมพู กิ่งจะแห้ง เนื้อไม้จะผุ  เมื่อเป็นมากเปลือกจะแห้งตาย เมื่อถากส่วนของกิ่งที่เชื้อราขึ้นปกคลุมอยู่จะเห็นเนื้อเปลือกแห้งเป็นสีน้ำตาล กิ่งที่เสียหายมากใบจะเหลืองและหลุดร่วง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต  หากอยู่ในช่วงดอกหรือผลอาจทำให้ดอกหรือผลหลุดร่วงได้ เนื่องจากขาดใบในการสังเคราะห์แสงสร้างอาหารไปเลี้ยงดอกและผล

     เชื้อราจะแพร่ระบาดโดยอาศัยลมและน้ำฝน และจะระบาดรุนแรงเมื่อมีความชื้นที่เหมาะสม เมื่อสภาวะอากาศไม่เหมาะสมสปอร์ของเชื้อราจะพักตัวอยู่ ในรูป Chlamydospore (Chlamydospore คือ สปอร์ที่มีผนังหนาสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมและสามารถอยู่ข้ามฤดู เพื่อระบาดในปีต่อๆไป) นอกจากนี้โรคราสีชมพูยังสามารถเข้าทำลายพืชได้หลายชนิด เช่น ทุเรียน ลองกอง มะม่วง กาแฟ ส้มเขียวหวาน ส้มจุก เป็นต้น

ราสีชมพูในทุเรียน

ราสีชมพูในลองกอง

ราสีชมพูในต้นกาแฟ

วิธีการป้องกันรักษา

               1.ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง เพื่อลดความชื้น ลดการแพร่ระบาดของโรค

               2.หมั่นสำรวจอยู่เสมอ โดยเฉพาะในฤดูฝน หากพบอาการของโรคให้ตัดกิ่งไปทำลาย และพ่นสารให้ทั่วต้น โดยเฉพาะบริเวณกิ่งและลำต้น แนะนำ ป้องกัน ไมโครบลูคอป 300 กรัม หรือ เบนเอฟ 300 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร รักษา แซสซี่ 100 ซีซี หรือ อินดีฟ 100 ซีซี หรือ คลอโรทาโรนิล+อะซอกซิสโตรบิน 300 ซีซี หรือ ไดเมทโธมอร์ฟ+แมนโคเซบ 300 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร

สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานยูนิไลฟ์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ยูนิไลฟ์ สำนักงานใหญ่ โทรศัพท์ 02-399-5555 หรือ ไอดีไลน์ @unilife



วิธีสั่งของออนไลน์